วันจันทร์ที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

                              แมวสายพันธ์ต่างๆ
                    
พันธุ์อเมริกันบ็อบเทล (The American Bobtail)








     อเมริกัน บ็อบเทล แมวพันธุ์นี้ มองในครั้งแรกคุณจะเห็นเหมือนเป็นบ็อบแคทธรรมดา แต่ถ้าหันมาเพ่งดูแล้วคุณก็จะเห็นสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งที่จะทำให้คุณหลงรักมันได้ในทันที แค่ได้สบตากับมันคุณก็จะรู้สึกตะลึงกับความน่ารัก ขนที่สะอาด ดูเป็นระเบียบ และอเมริกัน บ็อบเทล มักกระพริบตาให้ จนคุณอดไม่ได้ที่จะเข้าไปจับขนที่หนานุ่มและอุ้มมันขึ้นมาแต่ทันทีที่คุณเอื้อมมือไป มันจะยืนขึ้นและเหยียดตัวทำให้คุณได้เห็นร่างกายที่แข็งแรงและหางที่สั้นตามธรรมชาติ  ซึ่งแน่ใจได้เลยว่ามันมีความเป็นสัตว์ป่าอยู่ในตัว และเจ้าแมว อเมริกัน บ็อบเทล มันจะค่อย ๆ เดินเข้ามาหาคุณเพื่อเรียกร้องความสนใจและเมื่อ คุณอุ้มมันขึ้นมาก็จะต้องทึ่งในลักษณะท่าทางของมัน นอกจากนี้ ความฉลาดและความอ่อนโยนก็จะทำให้คุณรัก อเมริกัน บ็อบเทล มากที่สุด
     สำหรับรูปร่างและลักษณะนิสัยของ อเมริกัน บ็อบเทล มีตั้งแต่ขนาดกลางไปจนใหญ่ เป็นสัตว์ที่มีความเป็นนักกีฬา มีกล้ามเนื้อและพละกำลังแข็งแรง ร่างกายยาวพอสมควรและมั่นคง มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หางควรจะมองเห็นอย่างชัดเจนเหนือหลังเวลาที่มันตกใจและความยาวต้องไม่เกิน หัวเข่า หางที่ดีจะต้องเกือบตรงมีส่วนโค้งเล็กน้อย แมวพันธุ์นี้มีหัวเป็นรูปลิ่มแข็งแรงได้ขนาดและมีคิ้วที่เด่นชัดอยู่เหนือ ดวงตาคู่ใหญ่รูปร่างคล้ายอัลมอนด์ทำให้มันมีความเป็นนักล่าโดยธรรมชาติ การแสดงออกทางสีหน้าและท่าทางก็แสดงให้เห็นถึงความฉลาดและตื่นตัว
     ที่ปลายหูของเจ้าเหมียวพันธุ์ อเมริกัน บ็อบเทล ถือว่าเป็นจุดเด่น ขนที่มีลักษณะเฉพาะโดยมีขนสั้นความหนาปานกลางและขนยาวที่ความยาวพอเหมาะ ซึ่งมีความยืดหยุ่นและกันน้ำได้ ขนชั้นนอกจะหยาบส่วนขนด้านในจะคล้ายกับในกระต่ายซึ่งจะช่วยป้องกันตัวแมวจาก สภาพอากาศได้ เมื่อมันเคลื่อนไหวจะแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติในการเดินรวมทั้งลักษณะทาง กายภาพที่มีความคล้ายคลึงกับแมวป่า สัตว์พันธุ์นี้เป็นพันธุ์ที่มีการเจริญเติบโตช้าโดยจะต้องอาศัยเวลา 2-3 ปีกว่าที่จะโตเต็มตัว ถึงแม้แมวพันธุ์นี้จะมีลักษณะของสัตว์ป่าแต่อุปนิสัยและการปรับตัวก็มีความแตกต่างกัน
    ลักษณะนิสัยของ แมวพันธ์ อเมริกัน บ็อบเทล
อเมริกัน บ็อบเทล เป็นแมวที่ใจดี น่ารัก และฉลาดอย่างมาก มันมีลักษณะนิสัยคล้ายสุนัข และรักเจ้าของมาก อเมริกัน บ็อบเทล สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาวะที่ยุ่งเหยิงหรือเงียบได้ ยีนของแมวพันธุ์นี้เป็นยีนเด่น ซึ่งจะต้องมีหางสั้นตามธรรมชาติเพื่อที่จะได้มีลูกแมวที่หางสั้นต่อไป ความยาวโดยเฉลี่ยของหางคือ1-4 นิ้ว อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงค่าเฉลี่ย โดยความเป็นจริงแล้วอาจจะสั้นหรือยาวกว่านี้ก็ได้  
    นอกจากนี้ อเมริกัน บ็อบเทล จะผูกพันกับครอบครัว มันเข้าได้ดีกับสุนัขและสัตว์แปลกหน้าไม่ว่าจะมี4ขา หรือ 2 ขา คนขับรถบรรทุกมักจะให้มันนั่งไปเป็นเพื่อนเพราะมันจะเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดี ถ้าฝึกตั้งแต่เด็ก ๆ นักบำบัดทางจิตวิทยายังใช้มันในโปรแกรมการรักษาด้วย เพราะมันมีพฤติกรรมที่ดี ทั้งยังอ่อนโยนต่อผู้คนที่อยู่ในความทุกข์หรือเศร้าโศกเสียใจ นอกจากนี้มันเป็นเพื่อนเล่นที่ดีของเด็ก ๆ อเมริกัน บ็อบเทล มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อคนทุกวัยและเหมาะที่จะเลี้ยงไว้ในครอบครัวเพื่อความเพลิดเพลิน  

   แมวพันธุ์ อเมริกัน บ็อบเทล ชอบเล่นเกมส์ เช่น ให้วิ่งไปคาบ, เล่นซ่อนหา ซึ่ง อเมริกัน บ็อบเทล เล่นได้เป็นชั่วโมง ๆ มันจะเรียกร้องให้เราเล่นเกมส์กับมันและจะไม่หยุดจนกว่าเราจะเล่นด้วย โดยพื้นฐานแล้ว อเมริกัน บ็อบเทล จะเป็นแมวเงียบ ๆ แต่มันจะตื่นเต้นและส่งเสียงต่าง ๆ เวลาดีใจ เราสามารถล่ามโซ่ อเมริกัน บ็อบเทล ได้ง่ายและมันชอบที่จะออกไปเดินเล่น



Read More

                                    แมวพันธุ์ อเมริกัน บ็อบเทล

                                  
       


  นอกเหนือจากคุณสมบัติเด่นที่กล่าวไปแล้ว แมวพันธุ์ อเมริกัน บ็อบเทล ยังเป็นนักล่าที่เก่งกาจด้วยสัญชาตญาณในการเป็นนักล่าของมัน อเมริกัน บ็อบเทล มักจะช่วยจับแมลงที่บินภายในบ้าน มีรายงานว่าแมวพันธุ์ อเมริกัน บ็อบเทล  ส่วนใหญ่สามารถเปิดประตูบ้านเองได้โดยยืนด้วยขาหลังและหมุนลูกบิดประตูด้วยอุ้งเท้า และลักษณะที่ดีของมันอีกอย่างก็คือขนของมันต้องการการแปรงน้อยมากหรือไม่ต้องการเลย

           ทั้งนี้ แมวพันธุ์ อเมริกัน บ็อบเทล มีมาเป็นเวลา 30 ปีแล้ว แต่เพิ่งจะมามีชื่อเสียงเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา มันเป็นหนึ่งในพันธุ์ที่เพิ่งจะได้รับการยอมรับจากสมาคม Cat Fanciers’ เมื่อเดือนกุมภาพันธุ์ ปี 2000 ว่าเป็นพันธุ์ที่รู้จักกันมานานแล้ว และมีสายพันธุ์อยู่ทั่วโลกซึ่งเป็นหนึ่งในพันธุ์ที่น่าภูมิใจของอเมริกา ลักษณะที่เหมือนแมวป่าบวกกับลักษณะนิสัยที่เชื่องที่น่าพอใจ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้เพาะพันธุ์ที่ได้ทุ่มเทเวลา ความพยายามและกำลัง กายเพื่อที่จะให้ได้พันธุ์ที่น่าทึ่งนี้ พันธุ์อเมริกัน บ็อบเทล จึงสามารถอ้างสิทธิ์ได้อย่างภาคภูมิใจว่าเกิดในอเมริกา

           การกำหนดราคาของ อเมริกัน บ็อบเทล ปกติจะขึ้นอยู่กับชนิด,ลักษณะที่เหมาะสม และสายเลือด ผู้เพาะพันธุ์ส่วนใหญ่จะเพาะพันธุ์ลูกแมวอายุระหว่าง 12-16 สัปดาห์ หลังจาก 12 สัปดาห์ ลูกแมวจะได้รับการเตรียมพร้อมและพัฒนาทางด้านกายภาพและสถานะทางสังคมซึ่งจำ เป็นต่อการปรับตัวต่อสภาพแวดล้อมใหม่,การแสดงหรือการขนส่งทางอากาศ การเลี้ยงไว้ในบ้าน,การทำหมันและจำกัดพื้นที่ให้พอเหมาะ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพที่ดีและมีความสุขของแมวพันธุ์นี้
ลักษณะทั่วไปของ แมวพันธุ์ อเมริกัน บ็อบเทล

           มีขนาดตั้งแต่ขนาดกลางถึงใหญ่ สามารถสังเกตความเป็นนักกีฬาของมันได้จากลักษณะของกล้ามเนื้อและพละกำลัง ร่างกายมีความยาวปานกลางเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าแข็งแรงและมีไหล่ยื่นออกมา หางสั้นและสามารถเห็นได้เหนือหลังเวลามันตกใจโดยจะไม่ยาวไปถึงหัวเข่า พันธุ์นี้มีหัวที่แข็งแรง กว้างปานกลางเป็นรูปลิ่มโดยมีคิ้วที่เด่นเฉพาะตัวอยู่เหนือดวงตาโตคล้ายรูปอัลมอนด์ การแสดงออกทางสีหน้าท่าทางเป็นสิ่งที่แสดงถึงความฉลาดและความตื่นตัว โดยปกติตัวเมียจะมีสัดส่วนทีเล็กกว่าตัวผู้ ชนิดและลักษณะท่าทางจะมีความสำคัญมากกว่าขนาดตัว

           อเมริกัน บ็อบเทลล์ มีลักษณะภายนอกคล้ายคลึงกับสัตว์ป่าแต่มีอุปนิสัยใจคอและลักษณะนิสัยที่แตกต่างออกไป

            หัว : กว้างเป็นรูปลิ่มโดยไม่มีส่วนแบนหรือส่วนที่เป็นโดม ได้สัดส่วนกับลำตัว ส่วนของปากและจมูกยื่นออกมาอย่างพอเหมาะ โหนกแก้มเห็นได้ชัด มีหนวดวางอยู่บนแก้มที่อูม ส่วนโค้งระหว่างจมูกกับคิ้วบางและมีความยาวระหว่างคิ้วกับหูพอเหมาะ คิ้วสามารถเห็นได้ชัดบริเวณหน้าผากเป็นแนวเหนือตา ขอบของคิ้วจะอูมขึ้นรอบตา จมูกกว้าง ผิวหนังรอบจมูกจะใหญ่ คางแข็งแรงและกว้างได้แนวกับจมูกความกว้างของหัวและเหนียงที่คอจะเห็นได้ใจ ตัวผู้ที่โตเต็มที่แล้ว

           หู : มีขนาดปานกลาง ฐานกว้างมีขอบรอบๆหูบางอยู่ด้านบนสุดและด้านข้างสุดของหัว ขอบของหูยิ่งสูงยิ่งดี มีรอยสีเป็นรูปนิ้วอยู่ด้านหลังของหูหรือมีลายหรือลักษณะคล้ายแมวป่าเป็น ลักษณะที่ดี

           ตา : ตามีขนาดใหญ่ รูปร่างคล้ายเม็ดอัลมอนด์ วางตัวอยู่ลึก มุมด้านนอกบางขึ้นไปถึงหู ตาสองข้างห่างจากกันพอเหมาะ คิ้วที่อยู่เหนือตาแสดงให้เห็นถึงความเป็นนักล่าโดยธรรมชาติ

           รูปร่าง : ค่อนข้างยาว และแข็งแรงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า อกเต็มและกว้าง สะโพกบางใหญ่มีแผ่นไหล่ยื่นออกมาจากลำตัว สะโพกแข็งแรงและเกือบกว้างเท่าอก สีข้างหนา มีกล้ามเนื้อ มีลักษณะแบบนักกีฬา มีการเจริญเติบโตเต็มที่ช้า

           ขาและเท้า : ได้ขนาดกับร่างกาย มีความยาวพอเหมาะและมีกระดูกที่แข็งแรง อุ้งเท้าใหญ่และกลม มีปอยขนยาวที่นิ้วเท้า ขาหน้ามี 5นิ้ว ขาหลังมี 4นิ้ว

           คอ : มีความยาวปานกลางแต่อาจจะสั้นขึ้นกับลักษณะของกล้ามเนื้อ

           หาง : หางสั้น อาจตรง,เป็นส่วนโค้งเล็กน้อยหรือบิดงอเล็กน้อยหรือมีรอยขรุขระไปตามความยาว ของหาง หางอยู่ในแนวเดียวกับสะโพก มีฐานกว้าง แข็งแรงและทนต่อสัมผัส ไม่แข็งแต่ต้องยืดหยุ่นและไม่บิดจนไปทำลายธรรมชาติการเคลื่อนไหวของหาง หางที่ตรงจะได้รับการยอมรับกว่าหางที่งอ หางที่ตรงควรจะมีส่วนท้ายที่อูม

           ความยาวของหาง : จะต้องยาวพอที่จะเห็นได้ชัดเหนือส่วนหลังเวลาแมวตกใจ แต่จะต้องไม่เลยไปถึงหัวเข่า
ขนสั้น :

           ความยาว : ปานกลาง หนาพอสมควร
           ความหยาบ : ไม่พันกัน ยืดหยุ่นได้ดี ตรงปลายจะบาง
           ความหนา : มีขน 2 ชั้น ส่วนบนหนานุ่ม, ส่วนล่างอ่อนนุ่ม
           ความหลากหลาย : ขนสามารถสังเกตความแตกต่างได้ตามฤดู ขนอาจจะนุ่มขึ้น ความหยาบ ละเอียดหรือสีจางลง ตีนขนอาจจะมีสีเทามีลายขนยาว :

           ความยาว : ยาวปานกลาง หยาบเล็กน้อย ขนจะยาวเรียวบางลงบริเวณรอบคอสัตว์,สะดือและหาง
           ขนรอบคอ : บางนุ่ม
           ความหยาบ : ไม่พันกัน ยืดหยุ่น
           ความหนา : ขน 2 ชั้น ตีนขนไม่หนามา          

     ความหลากหลาย : ขนสามารถเปลี่ยนไปได้ตามฤดูกาล อาจนุ่มขึ้น,หยาบละเอียด,สีจางลง ตีน ขนอาจมีสีเทา มีลาย
    พัฒนาการ : มีการพัฒนาร่างกายให้โตเต็มวัยช้า โดยร่างกายของแมวพันธุ์นี้จะค่อยๆเติบโตจนเต็มที่ตอนอายุได้ 3 ปี
    ข้อบกพร่อง : หาง ที่ยาวเกินไปหรือสั้นเกินไปมีผลต่อการทรงตัวและลักษณะภายนอกของแมว หางที่บิดงอหรือขมวดเป็นปม หางที่แข็งไม่ยืดหยุ่นหรือวางตัวอยู่ต่ำ หางตรงแต่ส่วนท้ายไม่อูม ตากลม คางอ่อนส่วนปากและจมูกยื่นออกมาน้อยเกินไป
     ลักษณะที่ไม่ได้คุณภาพ : หางไม่ได้ขนาด ตาผิดรูป กระดูกเปราะ มีจำนวนนิ้วเท้าไม่ถูกต้อง
     สีและรูปแบบ : ทุกสีและทุกรูปแบบยอมรับได้ ไม่ค่อยยอมรับลักษณะที่มีลาย ลักษณะที่คล้ายแมวป่าเป็นที่ต้องการ
     สีตา : ทุกสีที่เป็นไปได้แต่ต้องไม่มีลักษณะที่แปลก ไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างตากับสีขน

Read More

แมวพันธุ์แร๊กดอลล์ Ragdoll







เป็นแมวขนาดใหญ่ มีขนยาวสวยงาม ดวงตาใหญ่ มีสีฟ้า สีของขนเป็นสีอ่อน หรืออาจมีแต้มสีบนใบหน้า ขา หู และหาง แมว Ragdoll  ถูกพัฒนาโดย Ann Baker นักผสมพันธุ์ชาว แคลิฟอร์เนีย ในปี ค.ศ.1960 โดย แมว Ragdoll ตัวแรกมีชื่อว่า Josephine เป็นแมวที่น่ารัก สุภาพ และมีแต้มสีแบบแมววิเชียรมาศ

          ทั้งนี้ Josephine แมว Ragdoll ตัวแรก เป็นลูกผสมระหว่าง แมวเปอร์เซีย (Persian Cats) และแมวพันธุ์แองโกร่า (Angora Cats) ซึ่งต่อมาได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ แมวแร๊กดอลล์ เรื่อยมา จนกลายเป็น แมว Ragdoll อย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน

ลักษณะนิสัย แมว Ragdoll

          แมว Ragdoll เป็นแมวที่มีนิสัยขี้อ้อนและติดคนมาก มันมักจะมาต้อนรับคุณถึงที่หน้าประตูบ้านเมื่อคุณกลับมาถึง และติดตามคุณไปทุกแห่ง แมว Ragdoll เป็นแมวเรียบร้อย สุภาพ จงรักภักดี และชอบความเงียบมาก มันสามารถนอนร่วมกับคนได้ อีกทั้ง แมว Ragdoll  เป็นแมวที่เข้ากับเด็ก ๆ ได้ดีและยังเข้ากับสัตว์อื่น เช่น สุนัขได้ดีอีกด้วย

          จุดเด่นอีกเรื่องของ แมว Rag doll เนื่องจากมันเป็นแมวที่มีเสียงร้องนุ่มนวลและเบามาก และแมว Ragdoll ยังมีนิสัยประหลาดคือ เมื่อเวลาที่คนอุ้ม มันจะทิ้งตัวโตงเตงราวกับตุ๊กตาเศษผ้าราวกับไม่มีชีวิต ดูคล้ายอาการเมายา



Ragdoll Cat 02

       เจ้าแมวแร็กดอลล์นี้มีลักษณะเหมือนตุ๊กตาผ้ามากเลยได้ชื่อว่า Ragdoll เวลาอุ้มก็ชอบทำตัวอ่อนเหมือนไม่มีกระดูก ขนบริเวณเอวแน่นฟู มีเสียงร้องที่เบามาก และเป็นแมวที่ชอบความเงียบสงบ

      ถิ่นกำเนิด
จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งแมวแร๊กดอลล์ตัวแรกได้มีการพัฒนามาจากการผสมพันธุ์ระหว่างแมวเปอร์เซีย และแมวแองโกล่า และได้พัฒนาสายพันธุ์เรื่อยมาจนเป็นแมวแร็กดอลล์ในปัจจุบัน

     ลักษณะเด่น
แมว Ragdoll เป็นแมวที่มีโครงร่างใหญ่ ขนหนานุ่ม มีขนอยู่ 4 แบบ คือ bi-color, van, mitted และ pointed โดยมีสีอยู่ 8 สี คือ seal, blue, chocolate, lilac, red, cream, fawn และ cinnamon และอาจมีแต้มสีแบบแมววิเชียรมาศได้อีกด้วย ขนบริเวณเอวหนาแน่นเป็นปุยฟู และมีเป็นจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์l คือ บริเวณอุ้งเท้าไปถึงช่วงขามีสีขาวเหมือนสวมถุงเท้า ลักษณะคล้ายแมวตุ๊กตาผ้า

    ลักษณะนิสัย
เป็นแมวแร็กดอลล์ เป็นแมวที่รักความเงียบสงบ มีเสียงร้องที่เบามาก และเมื่อเวลาที่คนอุ้ม มันจะทิ้งตัวคล้ายไม่มีกระดูก ดูราวกับตุ๊กตาผ้า มีนิสัยขี้อ้อน ติดคนมาก เข้ากับเด็กและสัตว์อื่นได้ดีอีกด้วย

Ragdoll Cat 03

      การดูแล
แมวแร็กดอลล์เป็นแมวที่ชอบทำความสะอาดขนด้วยการเลียขนตัวเองเป็นประจำ แต่ด้วยขนที่ยาวและหนาจึงอาจมีโอกาสที่จะป่วยจากการเกิด Hairball หรือก้อนขนในกระเพาะอาหารได้สูง ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงควรใส่ใจในการแปรงขน และหมั่นสังเกตอาการต่าง ๆ หากพบอาการผิดปกติ ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์

Read More

แมวพันธุ์หิมาลายัน (Himalayan Persian)




    ถิ่นกำเนิด   จากสหรัฐอเมริกา (ไม่ใช่เทือกเขาหิมาลัยนะคะ จากเว็บต่างประเทศทั้งหลายที่ได้เข้าไปศึกษามา)
สายพันธุ์   เกิดจากการผสมระหว่างแมวเปอร์เซียกับแมวไทยพันธุ์วิเชียรมาศทำให้เกิดลักษณะเด่นของแมวเปอร์เซียและวิเชียรมาศผสมกันได้ลูกแมวสายพันธุ์ใหม่ขึ้น บางครั้งจึงอาจเรียกแมวพันธุ์หิมาลายันนี้ว่า Colour point persian (อย่างเช่นถ้าจุดแต้มมันเป็นสีน้ำเงินก็จะเรียกว่า Blue point Himalayan ค่ะ)
ลักษณะ   เป็นแมวขนาดเล็ก  ขาค่อนข้างเล็ก หูสั้น จมูกสั้น แก้มนูนเต็มพอกับสายพันธุ์ต้นกำเนิดของมัน  มีขนยาวบริเวณรอบเอวมีขนอ่อนนุ่ม รอบๆคอและแก้มมีขนครุยห้อย บริเวณหาง ขนขึ้นหนาทึบ ที่หูจะมีขนยาวเป็นกระจุกย้อยลงมาเหมือนกับพันธุ์เปอร์เซีย  แต่มีแต้มแบบแมววิเชียรมาศ (9 จุด ได้แก่ ครอบหน้า 1, หู 2, ขาทั้ง 4, หาง 1 และอวัยวะเพศ 1  จึงทำให้แมวพันธุ์นี้มีลักษณะที่โดดเด่นออกไป  แถมมันยังมีตาสีฟ้าสดใสเหมือนแมววิเชียรมาศด้วยนะคะ
อุปนิสัย    ชอบซุกซน รักสนุกสนาน ขี้เล่น  มันชอบที่จะมาอยู่คลุกคลีกับคุณและชอบทำตามกิจกรรมที่คุณกระทำอยู่ด้วย  สมกับเป็นแมวที่รักเจ้าของจริง ๆ
     การดูแล  แมวพันธุ์นี้มีขนยาวเหมือนกับเจ้าเปอร์เซียนั้น  ทำให้การดูแลเหมือนกันเลยค่ะ  แถมเจ้าแมวพันธุ์นี้ชอบที่จะให้แปรงขน ทำความสะอาดอีกด้วย
    ทำไมแมวพันธุ์นี้ถึงชื่อหิมาลายันทั้ง ๆ ที่มันไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาหิมาลัยนะเหรอ  ส่วนตัวก็ไม่อาจสรุปได้  ได้แต่เพียงคาดเดาว่าการตั้งชื่อหิมาลัยเกิดจากรูปแบบขนถ้าสัตว์ตัวไหนมีสีขนและมีแต้มจุดแบบนี้อาจจะไม่ต้องจุดเหมือนเป๊ะแบบเจ้าวิเชียรมาศนะคะ  แค่มีแต้มจุดก็มักจะเรียกสายพันธุ์ว่าหิมาลายันค่ะ  เพราะจากที่ได้เรียนมายังมีกระต่ายสายพันธุ์หิมาลายันด้วยนะคะ  ซึ่งมันก็ไม่ได้มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาหิมาลัยแต่อย่าง  ราคาเริ่มต้นก็อาจจะสูงกว่แมวเปอร์เซียสักหน่อยนะคะ ราคาอยู่ที่ 4,500 บาทขึ้นไปค่ะ  แต่รับรองว่าถาคุณได้ครอบครงมันจะไม่เหมือนเปอร์เซียไหน ๆ แน่นอนก็มันโดดเด่นจากลูกผสมของแมววิเชียรมาศไทย ๆ ของเราอยู่ด้วย

Read More

แมวพันธุ์ Balinese

ลักษณะประจำพันธุ์ แมวบาลิเนส

         เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากในการเป็นเจ้าของแมวพันธุ์ บาลิเนส ซักตัว คุณจะพูดถึงมันอย่างตื่นเต้นจนกว่าคุณจะหยุดก็ต่อเมื่อคุณรู้สึกเหนื่อยที่เดียวภายใต้ขนยาวนุ่ม สวยงามนั้น แมวพันธุ์บาลิเนสนั้นนิสัยก็ดีด้วย ถึงแม้ว่ามันจะมีลักษณะที่สง่างาม แต่มันก็สามารถทำให้เจ้าของรู้สึกเพลิดเพลินได้ ไม่ต่างจากตัวตลกในคณะละครสัตว์เลยทีเดียว ถ้าคุณต้องการจะวัดความฉลาดของมัน เพียงแค่จ้องเข้าไปในดวงตาสีแซฟไฟร์ที่สดใสแวววาวไปด้วยความกระตือรือล้น ความมีสุขภาพดี และความอยากรู้อยากเห็น ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นที่นิยมเท่ากับ แมวสยาม แต่ แมวพันธุ์นี้มีเสียงร้องที่ค่อยกว่าและนุ่มนวลกว่า การทำความสะอาดก็ง่ายดาย เพราะขนของมันไม่หนาเหมือนสัตว์ขนยาวทั่วไป

         โดยทั่วไป แมวบาลิเนส มีขนยาว เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากการกลายพันธุ์ของแมวสยาม การที่ธรรมชาติให้สิ่งนี้กับแมวพันธุ์นี้นั้น ช่วยส่งเสริมความสง่างามของมันมากขึ้น ความยาวของขนนั้นเป็นข้อแตกต่างระหว่าง แมวสยาม และแมวบาร์ลิเนส ถึงแม้ว่าจะมีการพิสูจน์ว่าบางครั้งบางคราวในลูกของแมวสยาม 1 ครอก จะปรากฎลูกแมวที่มีลักษณะขนยาวซักตัว สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของนักเพาะพันธุ์มากมาย ไม่ต้องใช้ความพยายามในการโปรโมทแมวบาลิเนสนี้เลย เพราะความสวยงามน่ารักของมันแก่ผู้พบเห็น

         ทั้งนี้ มีการค้นพบแมวขนกึ่งสั้นกึ่งยาวครั้งแรกที่ อเมริกา แมวบาลิเนสมีลักษณะเหมือนแมวสยามคือแต้มสีที่ จมูก หูทั้งสองข้าง ขาทั้งสี่ และหาง แต่แมวบาลิเนส จะมีขนยาวเรียบ หัวเป็นรูปลิ่มค่อนข้างยาว มองจากด้านหน้า(รวมหูด้วย)จะเป็นรูปสามเหลี่ยม มองจากด้านข้างจมูกกับหน้าผากจะเป็นเส้นตรง หน้าผากไม่นูน หูค่อนข้างใหญ่ ฐานหูกว้าง ตารูปเมล็ด Almond ขนาดปานกลาง รับกับจมูกและหน้า ตาไม่เหล่ไม่เข สีตาเป็นสีน้ำเงินสดใส รูปร่างสูงยาว ขนาดตัวปานกลาง เส้นหลังตรง สะโพกไม่กว้างกว่าไหล่

          รูปร่างของแมว Balinese ตัวผู้อาจจะใหญ่และหนากว่าตัวเมียในบางส่วน อุ้งเท้าเป็นรูปไข่ หางยาว ขนหางยาวชี้ออกเหมือนขนนก ขนลำตัวยาวปานกลาง ละเอียด นุ่ม ไม่มีขนชั้นใน ขนยาวเรียบติดตัว ขนลำตัวอาจจะสั้นกว่าที่หางก็ได้ สีของแต้มมีอยู่ 4 สี คือ Seal point Chocolate point Blue point Lilac point

                                  


       ลักษณะมาตราฐานของแมวพันธุ์นี้ถูกกำหนดโดย Cat Fanciers’ Association โดยมีลักษณะดังนี้ หุ่นเพรียวยาว รวมไปถึง หัว ขา และหาง ขนยาวเรียวแหลมอ่อนนิ่ม และมีกล้ามเนื้อแข็งแรงซึ่งมีลักษณะคล้ายบรรพบุรุษของมันคือ แมวสยามนั้นเอง แต่มันก็ก้าวไปอีกขั้นหนึ่งในเรื่องของความยาวของส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และลักษณะที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งก็คือ มีขนหางที่ยาวปุยคล้ายขนนก
เพราะ แมวบาลิเนส มีขนชั้นเดียว ซึ่งแตกต่างจากสัตว์ขนยาวอื่น ๆ ทั่วไปซึ่งจะมีขนสองชั้นขนของแมวพันธุ์นี้จะวางตัวราบเรียบชี้ไปด้านหลัง และไม่ทำให้เสียรูปทรงของแมวพันธุ์นี้

         ลักษณะของสีจุดได้รับการรับรองโดย CFA ซึ่งสีจุดนั้นเป็นสีจุดของแมวพันธุ์สยาม

         ราคาของแมวบาลิเนสนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของแมวตัวนั้น ซึ่งสามารถทำให้ราคาสูงได้โดย ให้เข้าประกวดในงานต่าง ๆ เช่น Grand Champion, National หรือ Regional Champion

         ตามปกติแล้วนักเพาะพันธุ์จะขายลูกแมว อายุประมาณ 12-16 สัปดาห์ ซึ่งเป็นอายุที่เหมาะสม หลังจาก 12 สัปดาห์ ลูกแมวควรได้รับการฉีดวัคซีน และได้รับการส่งเสริมด้านร่างกาย สังคมและการปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อม และควรเลี้ยงในร่ม และมีพื้นที่ให้แมวได้ข่วน ซึ่งเป็นนิสัยธรรมชาติของสัตว์ประเภทนี้

         ข้อบกพร่องของแมวพันธุ์นี้ก็คือ ขาหลังอ่อนแอ มีการหายใจทางปากเนื่องจากสิ่งกีดขวางในช่องจมูก และบางตัวมีลักษณะที่ฟันบนและฟันล่างไม่สบกัน มีผลทำให้มีลักษณะคางยาวหรือคางสั้นกว่าปกติ ความหงิกงอของหาง นิ้วเกิน และ มีขนมากกว่าหนึ่งชั้น

ลักษณะสีขน แมวบาลิเนส

         SEAL POINT: สีของลำตัวจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนอมเหลือง ตรงบริเวณท้องและอกจะมีสีที่อ่อนกว่าส่วนของลำตัว สีของจุดจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม เช่นเดียวกับสีของจมูกและอุ้งเท้า สีของตาเป็นสีฟ้าเข้ม

         CHOCOLATE POINT: สีของลำตัวเป็นสีงาช้าง สีของจุดเป็นสีน้ำตาลอ่อนเหมือนสีของchocolateนม สีของจมูกและอุ้งเท้าเป็นสีชมพู่ซินนามอน ตาสีฟ้าเข้ม

         BLUE POINT: สีของลำตัวสีขาวออกฟ้าอมเทา สีจะค่อย ๆ จางลงตรงบริเวณท้องและอก สีของจุดมีสีฟ้าเข้ม สีของจมูกและอุ้งเท้ามีสีเทาอมน้ำเงิน ตาสีฟ้าเข้ม

         LILAC POINT: สีของลำตัวเป็นสีขาวปลอด สีจุดจะมีสีเทาหรือชมพู สีของจมูกและอุ้งเท้าจะเป็นสีชมพูม่วง ตาสีฟ้าเข้ม

Read More

แมวพันธุ์ อเมริกัน เคิร์ล American Curl





   ถือเป็นแมวที่มีชื่อเสียงมากอีกพันธุ์หนึ่ง ด้วยลักษณะเด่นของ American Curl คือ มีหูม้วนหลุบไปข้างหลัง เป็นลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนแมวพันธุ์อื่น อเมริกัน เคิร์ล เป็นแมวที่ร่าเริงไม่ดุ มีนิสัยเป็นมิตรกับผู้คน ซื่อสัตย์ เข้ากันได้ดีกับเด็ก ๆ และสัตว์อื่นในบ้าน ว่ากันว่า อเมริกัน เคิร์ล มีลักษณะคล้ายสุนัขอีกด้วย

 ประวัติ แมว อเมริกัน เคิร์ล American Curl

          แมว อเมริกัน เคิร์ล American Curl ถูกค้นพบในชุมชน California ของ Lakewood โดย Joe และ Grace Ruga ในเดือนมิถุนายน ปี ค.ศ.1981 Joe กลับจากทำงานตอนเย็นนั้นและพบลูกแมว 2 ตัวอายุ 6 เดือน ภายนอกบ้านของเขา จึงรับมาเลี้ยงดู พวกเขาตั้งข้อสังเกตว่าพวกมันมีหูที่เป็นวงนั้นจากหลังถึงหัว ดูแล้วเป็นที่น่าขัน ลูกแมวตัวที่เป็นพี่ มีสีดำกับขนยาวและอีกตัวหนึ่ง มีขนสีดำ และสีขาวและขนกึ่งยาว ทั้งสองมีขนนุ่มเป็นมันเรียบคล้ายไหม ลูกแมวทั้งสองถูกตั้งชื่อว่า Shulamith และ Panda

          ต่อมาในเดือนธันวาคม ค.ศ.1981 หลังการตกลูกครอกแรกของ Shulamith พวกเขาจึงได้มองเห็นถึงการมีใบหูที่มีลักษณะที่พิเศษไม่เหมือนใครของมัน แสดงถึงการค้นพบพันธุ์ใหม่ของแมว พวกเขาเริ่มต้นการวิจัยและการทดสอบเพาะพันธุ์โดยทันที ซึ่งนำมาสู่การยอมรับและได้รับการจดทะเบียนเป็น อเมริกัน เคิร์ล American Curl แมวพันธุ์ใหม่ของโลกในปี ค.ศ.1986 ซึ่งแมวพันธุ์นี้ถือว่าเป็นแมวที่สามารถแบ่งพันธุ์ได้ทั้งสองชนิดคือมีทั้ง แบบ Shorthair และ Longhai

Read More

วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

แมวเตอร์กิชแวน ( Turkish Van )
           


   เป็นแมวที่มีต้นกำเนิดมานานหลายร้อยปีแล้ว โดยถิ่นกำเนิดอยู่ที่แถบทะเลสาบแวน ในตุรกี ซึ่งเป็นเจ้าเหมียวชนิดเดียว ที่ไม่กลัวน้ำ แถมยังชอบว่ายน้ำอีกด้วย จนได้ฉายาว่า "Swimming Cat" และมันได้รับการรับรองจากสถาบัน GCCF เมื่อปี ค.ศ. 1969 ปัจจุบันมีหลากหลายเฉดสี และหลายลาย แต่สีที่คลาสสิคมากๆคือ สีน้ำตาลแดง หรือ น้ำตาล ครีมๆ อุปนิสัยร่าเริง มีความเป็นมิตร ชอบหมกตัวอยู่กับเจ้าของ ไม่ก็แอบซุกอยู่ในที่เงียบๆ มีพละกำลังในการเล่นสูง และชอบว่ายน้ำเป็นชีวิตจิตใจ

   ลักษณะโดยทั่วไป
           เป็นแมวขนกึ่งยาวที่สามารถปรับสภาพได้ตามภูมิอากาศ ลำตัวยาว และใหญ่มาก หัวค่อนข้างกว้าง ใบหูขนาดกลางถึงใหญ่ ตั้งตรงสูง ไม่ห่างกันมากนัก ดวงตาโต สีเหลืองอำพัน หรือสีฟ้า หรือบางครั้งมีท้ง2สี ( Odd Eyes ) ลายของขนตลอดลำตัวจะเป็นสีขาว มีสีอื่นได้เฉพาะที่หัวและหาง ไม่ควรมีแต้มตามลำตัวเกิน 2 ที่

Read More

แมว เบอร์แมน (Birman)


   ลักษณะของแมวพันธุ์เบอแมน
เป็นแมวขนาดใหญ่ ยาวล่ำสัน กำยำ แข็งแรง ขนยาวแวววาวเหมือนใยไหม ขนสีเหลือบทองเป็นสีที่ชื่นชอบมากกว่า ดูราวกับละอองน้ำกับทองคำ แต้มที่หน้าขาและหางมีสีเข้มขึ้นเหมือนกับ Siamese และแต้มสีของ Persian ซึ่งมีรูปแบบสีของแต้มสีครัง แต้มสีน้ำเงิน แต้มสีช๊อกโกเลตและแต้มสีดอก Lilae ตาเป็นสีน้ำเงินเกือบจะกลม เท้าสีขาวเด่น เป็นเท้าที่ได้สัดส่วนร่วมกัน ถุงเท้าบนเท้าหน้า ถ้าสมบูรณ์แบบจะมีเส้นเรียบยาวไปตามขวาง และบนขาหลังเส้นจะสิ้นสุดในตำแหน่งเหนือส่วนหลังของเขาเรียกว่าสายรัดรองเท้า (Laces) ยากมากที่จะผสมพันธุ์แมวให้ได้ถุงเท้าสีขาว 4 ข้างที่สมบูรณ์แบบ
มีบุคลิกภาพที่สนุกสนาน สุภาพดีเลิศ กระตือรือร้น คล่องแคล่ว ขี้เล่น แต่เงียบสงบและไม่ยุ่งเรื่องคนอื่น ถ้าคุณกำลังวุ่นวายอยู่กับสิ่งอื่นๆ
เชื่อกันว่าแมว Birman มีถิ่นกำเนิดในพม่า ทะเบียนแมวฝรั่งเศสยอมรับ Birman ในฐานะสายพันธุ์ที่แยกออกมา ใน คศ.1925 เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 มีเพียง Birman 2 ตัวที่ถูกละทิ้งให้มีชิวิตอยู่ในยุโรป ดังนั้นจึงเกิดการผสมข้ามสายพันธุ์เพื่อสถาปนาสายพันธุ์ขึ้นใหม่ แมวที่จะได้รับการขึ้นทะเบียนส่วนใหญ่ต้องการสายพันธุ์บริสุทธิ์อย่างน้อย 5 รุ่น หลังจากการผสมข้ามสายพันธุ์เพื่อให้ได้รับการรับรองสายพันธุ์อย่างเต็มที่สำหรับ Championship Competition Birman ได้รับการรับรองจากประเทศอังกฤษใน ค.ศ.1966 และจาก The Cat Fancier’s Association ใน ค.ศ.1967

Read More

 เมนคูน

 
    เมนคูนเป็นแมวที่มีขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง  ไม่ตัวใหญ่เพียงอย่างเดียวแต่ยังมีขนที่ยาวอีกด้วย  และเป็นแมวที่มีสายพันธุ์จากแมวป่าที่มีความเก่าแก่มากและมีตำนานเล่าขานกันมากมายเช่นกันมีการบันทึกในวรรณกรรมของแมว  โดยปกตินั้นเมนคูนเป็นแมวพื้นบ้านของชนพื้นเมืองในรัฐเมน  สามารถที่จะอยู่ใน
               
ประวัติความเป็นมาแมวเมนคูน
                สำหรับความเป็นและต้นกำเนิดนั้นไม่แน่ชัดว่าเป็นมาอย่างไรตั้งแต่แรกเริ่มเพียงแต่มีการเล่าต่อๆกันมาและเป็นเพียงแค่การสันิฐานจากข้อมูลต่างๆเท่านั้น  มีในบางข้อมูลว่า  สมเด็จพระราชินีของฝรั่งเศสในปี 1793  ก่อนนั้นกำลังที่จะหนีเรื่องอะไรบางอย่างแล้วได้นำสิ่งของมีค่าต่างๆ  นำไปด้วย  รวมทั้งสัตว์เลี้ยงของพระองค์  พอมาถึงชายฝั่นสัตว์เลี้ยงที่ได้นำมาได้เกิดผสมพันธุ์กลายเป็นเมนคูน
                ยังมีอีกว่ามีการเดินเรือของกัปตันชาร์ลลส์คูนชาวอังกฤษเก็บแมวที่มีขนยาว  แล้วมีการจอดเทียบท่าเรือในนิวอิงแลนด์พอร์ต  จากนั้นแมวตัวนั้นได้ทำการผสมพันธุ์กับแมวป่าที่นั้น  ก็เลยออกลูกมาเป็นตัวเมนคูน
                และมีอีกทฤษฎีหนึ่งคือมีการพสมพันธุ์ที่เป็นแมวพื้นบ้านขนสั้นจับคู่กับแมวที่มาจากต่างประเทศที่มีลักษณะขนใหญ่แล้วยาว  แล้วจึงมาเป็นเมนคูน
                แต่ที่เป็นการยอมรับก็คือเมนคูนเป็นสัตว์พื้นเมืองของชนพื้นเมืองในรัฐเมน  และเป็นสัตว์ที่เลี้ยงกันมานานอย่างเป็นทางการ  และมีการบอกว่าการผสมพันธุ์เกิดจากแมวบ้านกึ่งแมวป่าผสมพันธุ์กับแรคคูน  แมวชนิดนี้จึงมีหางเป็นพวงคล้ายกันแรคคูนนั้นเอง  และมีสีและลวดลายสีน้ำตาลที่มีลักษระเหมือนแรคคูน
                ก่อนที่เมนคูนจะได้รับความนิยมนั้นมีการบันทึกไว้ในวรรณกรรมปี 1861 ได้มีการบันทึกแมวตัวสีดำและสีขาว  ของกัปตัน Jenks ได้เขียนว่าแรคคูนได้นำเข้าประกวดและได้รับรางวัลชนะเลิศในการแสดงครั้งนี้จึงทำให้เป็นที่นิยมในบอสตันและนิวยอร์ก  โดยแมวเพศเมียสีน้ำตาลที่มีชื่อว่า Cosey โดยนางเฟร็ดบราวน์เป็นคนส่งเข้าประกวด  โดยได้รับปลอกคอสีน้ำเงินและเหรียญ
                ในช่วงปี 1900  ได้เกิดวิกฤตเกี่ยวกับเมนคูน  เนื่องความนิยมเลี้ยงแมวที่ตัวใหญ่และมีขนยาวได้ลดลง  แต่ว่ามีพันธุ์ที่มีขนาดตัวเล็กกว่า  นั้นคือแมวเอร์เซียที่ได้นำมาจากตะวันออกลาง  และการแสดงของเมนคูนก็ได้สิ้นสุดลงเมื่อปี  1911  ความนิยมจึงลดน้อยลงไปเรื่อยๆ  ต่อมานั้นในปี  1950 ได้มีการพยายามพื้นฟูความนิยมของเมนคูนเกิดขึ้นโดยอัลสมิธ  โดยเขาพยายามในการจัดสายพันธุ์เมนคูนมาแสดงนิทรรศการและได้เขียนหลังสือเกี่ยวกับมาตรฐานเมนคูน
                และในศตวรรณต่อมาเป็นที่ยอมรับกันมากขึ้นด้วยลักษณะที่เป็นแมวบ้านที่ตัวใหญ่  สง่างาม  และเป็นนักล่าที่ดีมีความบึกบึนและความอดทนที่ดีโดยเฉพาะการอาศัยอยู่ในอากาศที่หนาวเย็น  นิยมเลี้ยงในประเทศอังกฤษมากขึ้นและมากที่สุด  ถือได้ว่าเป็นแมวที่มีสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปเอเมริกาเหนือ  อายุในการดำรงชีวิต  12 – 15 ปี

Read More


แมวเมนคูน (Maine Coon)






          เมนคูนเป็นแมวที่มีขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง  ไม่ตัวใหญ่เพียงอย่างเดียวแต่ยังมีขนที่ยาวอีกด้วย  และเป็นแมวที่มีสายพันธุ์จากแมวป่าที่มีความเก่าแก่มากและมีตำนานเล่าขานกันมากมายเช่นกันมีการบันทึกในวรรณกรรมของแมว  โดยปกตินั้นเมนคูนเป็นแมวพื้นบ้านของชนพื้นเมืองในรัฐเมน  สามารถที่จะอยู่ในพื้นที่มีหิมะได้ดี เป็นแมวที่มีขนาดใหญ่มีความน่ารัก
ประวัติความเป็นมาแมวเมนคูน
                สำหรับความเป็นและต้นกำเนิดนั้นไม่แน่ชัดว่าเป็นมาอย่างไรตั้งแต่แรกเริ่มเพียงแต่มีการเล่าต่อๆกันมาและเป็นเพียงแค่การสันิฐานจากข้อมูลต่างๆเท่านั้น  มีในบางข้อมูลว่า  สมเด็จพระราชินีของฝรั่งเศสในปี 1793  ก่อนนั้นกำลังที่จะหนีเรื่องอะไรบางอย่างแล้วได้นำสิ่งของมีค่าต่างๆ  นำไปด้วย  รวมทั้งสัตว์เลี้ยงของพระองค์  พอมาถึงชายฝั่นสัตว์เลี้ยงที่ได้นำมาได้เกิดผสมพันธุ์กลายเป็นเมนคูน
                ยังมีอีกว่ามีการเดินเรือของกัปตันชาร์ลลส์คูนชาวอังกฤษเก็บแมวที่มีขนยาว  แล้วมีการจอดเทียบท่าเรือในนิวอิงแลนด์พอร์ต  จากนั้นแมวตัวนั้นได้ทำการผสมพันธุ์กับแมวป่าที่นั้น  ก็เลยออกลูกมาเป็นตัวเมนคูน
                และมีอีกทฤษฎีหนึ่งคือมีการพสมพันธุ์ที่เป็นแมวพื้นบ้านขนสั้นจับคู่กับแมวที่มาจากต่างประเทศที่มีลักษณะขนใหญ่แล้วยาว  แล้วจึงมาเป็นเมนคูน
                แต่ที่เป็นการยอมรับก็คือเมนคูนเป็นสัตว์พื้นเมืองของชนพื้นเมืองในรัฐเมน  และเป็นสัตว์ที่เลี้ยงกันมานานอย่างเป็นทางการ  และมีการบอกว่าการผสมพันธุ์เกิดจากแมวบ้านกึ่งแมวป่าผสมพันธุ์กับแรคคูน  แมวชนิดนี้จึงมีหางเป็นพวงคล้ายกันแรคคูนนั้นเอง  และมีสีและลวดลายสีน้ำตาลที่มีลักษระเหมือนแรคคูน
                ก่อนที่เมนคูนจะได้รับความนิยมนั้นมีการบันทึกไว้ในวรรณกรรมปี 1861 ได้มีการบันทึกแมวตัวสีดำและสีขาว  ของกัปตัน Jenks ได้เขียนว่าแรคคูนได้นำเข้าประกวดและได้รับรางวัลชนะเลิศในการแสดงครั้งนี้จึงทำให้เป็นที่นิยมในบอสตันและนิวยอร์ก  โดยแมวเพศเมียสีน้ำตาลที่มีชื่อว่า Cosey โดยนางเฟร็ดบราวน์เป็นคนส่งเข้าประกวด  โดยได้รับปลอกคอสีน้ำเงินและเหรียญ
                ในช่วงปี 1900  ได้เกิดวิกฤตเกี่ยวกับเมนคูน  เนื่องความนิยมเลี้ยงแมวที่ตัวใหญ่และมีขนยาวได้ลดลง  แต่ว่ามีพันธุ์ที่มีขนาดตัวเล็กกว่า  นั้นคือแมวเอร์เซียที่ได้นำมาจากตะวันออกลาง  และการแสดงของเมนคูนก็ได้สิ้นสุดลงเมื่อปี  1911  ความนิยมจึงลดน้อยลงไปเรื่อยๆ  ต่อมานั้นในปี  1950 ได้มีการพยายามพื้นฟูความนิยมของเมนคูนเกิดขึ้นโดยอัลสมิธ  โดยเขาพยายามในการจัดสายพันธุ์เมนคูนมาแสดงนิทรรศการและได้เขียนหลังสือเกี่ยวกับมาตรฐานเมนคูน
                และในศตวรรณต่อมาเป็นที่ยอมรับกันมากขึ้นด้วยลักษณะที่เป็นแมวบ้านที่ตัวใหญ่  สง่างาม  และเป็นนักล่าที่ดีมีความบึกบึนและความอดทนที่ดีโดยเฉพาะการอาศัยอยู่ในอากาศที่หนาวเย็น  นิยมเลี้ยงในประเทศอังกฤษมากขึ้นและมากที่สุด  ถือได้ว่าเป็นแมวที่มีสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในทวีปเอเมริกาเหนือ  อายุในการดำรงชีวิต  12 – 15 ปี

Read More

แมวเมนคูน
                                  

      เมนคูนเป็นแมวที่มีลักษณะที่ใหญ่มีขนปุกปุยหรืออาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามสถาณที่อยู่อาศัย  สามารถที่จะอยู่อาศัยกับภูมิอากาศที่หนาวจัดได้  ขนของมันจะมีความยาวมาก  มึคุณสมบัติที่เด่นอีกอย่างคือม่ดวงตาที่ใหย๋เป้นรูปวงรีและมีหลากหายสีไม่จำเป็นที่จะดูแลเอาใจใส่มากในเรื่องความสะอาด
หัว : มีขนาดที่เล็กเมื่อเทียบสัดส่วนขงกาย  และมีหน้าผากที่กว้างมีความโค้ง  มีโหลกแก้มที่สูง 
ตา : เป็นรูปวงรีคล้ายรูปไข่  ปกติจะเป็นสีฟ้า  สีเขียว และสีเหลือง  สีเหลืองจะมีมากกว่า  ตาสีฟ้ามักจะเป็นตัวที่มีสีขาว  และมีขอบตาที่ลึกลงไป
หู : หูมีขนาดใหญ่ฐานหูที่กว้าง  มีลักษระตั้งชันและมีขนบริเวณปลายหูเล็กน้อย
ลำตัว : ในแมวบ้านถือได้ว่าเมนคูนเป็นแมวที่ใหญ่ที่สุด  เพศผู้มีน้ำหนัก 6.8 – 11 กิโลกรัม  เพสเมียมีน้ำหนัก  4.5 – 6.8 กิโลกรัม  ความอาจจะมีความแตกต่างกันแต่อยู่ในระหว่าง  25 – 41 เซนติเมตร  ความยาว 120 เซนติเมตร  รวมกับหางด้วย  ลักษณะดังกล่าวจึงทำให้มีลำตัวเป้นรูปสี่เหลี่ยมพื้นผ้า  มีไหล่และสโพกกว้าง  แต่ตัวเมียจะมีขนาดเล็กกว่าตัวผู้อย่างเห็นได้ชัด  ร่างกายมีความแข็งแรงซึ่งเป็นสิ้งสำคัญในการรับน้ำหนักของมัน  ขนาลำตัวมีการเจริญเติบโตและมีการเปลี่ยนแปลงไปจนถึง 3 – 5 ปี  ซึ่งในขณะเดียวกันแมวชนิดอื่นๆ  ใช้เวลาเพียง 1 ปีเท่านั้น
หาง : ฐานที่หางกว้างและเรียวเล็กไปจรดปลายหาง  มีขนที่หางเป็นพวงเป็นพวงคล้ายหางแรคคูน
ขน : ขนของเมนคูนมีความยาวที่ไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับภูมิอากาศที่เลี้ยงด้วย  และการขึ้นตามลำตัวก็จะไม่เท่ากัน  ส่วนบริเวณรอบๆคอจะมีความยาวที่มากกว่าบริเวณอื่นๆ  เหมือนขนของสิงโต  ส่วนหัวขนจะสั้นมากที่สุดเป็นขนที่มีลักษณะที่เนียนและนุ่ม  ไม่ต้องการทำความสะอาดหรือว่าดูแลเรื่องขนมากมายเมื่อเทียบกับแมวที่มียาวชนิดอื่น
สี : สีมี่ความแตกต่างกันหลากหลาย  ไม่ว่าจะเป็นลายเสือ  สีขาว  สีน้ำตาล  มักจะไม่เป็นสีเดียวไปทั้งตัวยกเว้นสีขาว
ลักษณะนิสัย
    เมนคูนเป็นแมวที่มีความเป็นส่วนตัวสูงและไม่ชอบที่จะอยู่กับที่เท่าไหร่  ชอบไปนั้นไปนี้หรือว่าเดินไปรอบบ้าน  มีความเฉลียวฉลาด  สามารถที่จะฝึกอบรมได้  หากเลี้ยงไว้อาจจะไม่ชอบที่จะเข้ามายุ่งกับคุณเท่าไหร่นัก  แต่มันที่จะเดินตามคุณเพื่อไปตรวจตาสิ่งของต่างๆที่อยู่รอบๆ  เพราะชอบสนใจในสิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ  มันจะมีส่วนร่วมในการสังเกตุสิ่งต่างๆ  จะมีเมนคูนไม่กี่ตัวที่ชอบวื่งเพราะส่วนใหญ่แล้วมันจะเดินและเคลื่นไหวอย่างช้าๆมากกว่า  บางทีมันอาจจะอยู่รอบๆตัวหรือว่าสถาณที่คุณอยู่แต่จะไม่เข้าไปยุ่งกับคุณเท่าไหร่นัก  แมวชนิดนี้จะมีความซุกซนและขี้เล่นบ้าง  สามารถที่จะเข้ากับสุนัขหรือว่าเด็กๆได้ดี  โดยเฉพาะเพศผู้นั้นจะซนกว่าเพสเมียและมีความเป็นผู้นพและศักดิ์ศรีของตัวเอง  มีความจงรักภักดีกับเจ้านายที่เลี้ยงดูเป็นแมวที่มีความอ่อนโยน  และมีความพิเศษด้วยนำเสียงร้องของมันที่เวลาร้องนั้น  มีหลากหลายเสียงสามารถที่จะเป็นเพื่อนคุยแก้เหงาได้ดี
ลักษณะพิเศษ
                แมวเมนคูนสามารถที่จะดำรงชีวิตอยู่ได้แม้อากาศที่หนาวจัด  โดยขนของมันจะยาวและหนาขึ้นเมื่ออยู่ในภาวะที่อากาศหนาว  มีบริเวณด้านล่างและว่าด้านบนของมันมีการปกป้องสำหรับการเดินหรือว่านั่งในบริเวณที่มีหิมะหรือว่าน้ำแข็งได้  หางของมันเหมือนแรคคูนั้นสามารถที่จะกระดกในขณะที่มันจมอยู่หิมมะได้  สามารถที่จะใช้ในการห่มเพื่อเพิ่มความอบอุ่มนให้กับร่างกายได้  และมีอุ้งเท้าที่มีขณะใหญ่เพื่ออำนวนความสะดวกในการเดินบนหิมะหรือว่าน้ำแข็งได้ดี
สุขภาพของเมนคูน
                โรคที่มักพบบ่อยๆ  ส่วนใหญ่นั้นมาจากทางสายเลือกหรือว่าพันธุกรรมของเมนคูนเอง  โรคที่พบคือโรคหัวใจจะพบจะเป็นพันธืแท้หรือว่ามีพันธุ์อื่นผสมก็ตาม  ตั้งแต่วัยกลางจนถึงที่มีอายุมาก  ตัวผู้มักจะเป็นมากว่าตัวเมีย  จนทำให้เกิดหัวใจล้มเหลวหรือว่าเกิดอัมพาตได้โรคเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง  เป็นอีกโรคที่มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรมเป็นสาเหตุทำให้ระบบประสาทเกิดปัญหา  อาการที่เกิดจะส่งผลให้กล้ามเนื้อลีบ  และอ่อนแอทำให้อายุสั้นลง  รวมไปถึงกระดูกของสะโพกเช่นกันทำให้เกิดอาการพิการในเวลาต่อมา

Read More


แมวเนบีลัง ( Nebelung )
                          




 เป็นแมวที่มีรูปร่างลักษณะหน้าตา คล้ายๆกับแมว Russian Blue ซึ่งได้รับการยอมรับ และขึ้นทะเบียนจากสถาบันแมวในอเมริกาเมื่อปี ค.ศ. 1986 คำว่า Nebelung เป็นภาษาเยอรมัน ที่มีความหมายว่า เจ้าแห่งสายหมอก แมวชนิดนี้มีเพียงสีเดียวคือ สีเทา ที่ปลายขนออกเป็นสีเงินเงา นิสัยเรียบร้อย แต่ขี้อาย ไม่ค่อยเข้ากับคนแปลกหน้า และมีความจงรักภักดีต่อเจ้าของเป็นอย่างมาก











ลักษณะโดยทั่วไป
 




Read More

แมวพันธุ์ไซบีเรียน (Siberian)

                             

   ถิ่นกำเนิด  จากประเทศรัสเซีย
สายพันธุ์   เป็นแมวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ  ชื่อเต็มของมันก็คือ Siberian forest cat ก็เนื่องจากที่มันเป็นสายพันธุ์แมวที่เกิดจากป่าแล้วได้ถูกมนุษย์นำมาเลี้ยงนั่นเอง
ลักษณะ     เป็นแมวแบบขนกึ่งสั้นกึ่งยาว จะมีขนหนายาวในช่วงฤดูหนาว  และขนจะสั้นลงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ  เหมือนพวกสัตว์ป่าตามสารคดีเลยเนอะ (แหะ ๆ ก็มันเคยเป็นสัตว์ป่ามานี่นา  ก็สภาพอากาศตามป่าที่มันอยู่อย่างรัสเซียนั้นช่างโหดร้ายทารุณ  จุดเด่นของมันเท่าที่สังเกตุนะคะแมวพันธุ์นี้จะมีขนที่แผงขอช่างเหมือนสิงโตตัวน้อยดี ๆ เลยละค่ะ ขนของมันนั้นมีหลากหลายสีตามการผสม แถมร่างกายของเจ้าพันธุ์นี่ช่างแข็งแกร่งสมกับมาจากป่าจริง ๆ

อุปนิสัย     เป็นแมวที่มีลักษณะนิสัยดี เหมาะสมแก่การเป็นแมวเลี้ยง แม้จะมีลักษณะคล้ายแมวป่าก็ตาม ลักษณะนิสัยคล้ายคลึงสุนัข คือจงรักภักดีและเป็นมิตร
การดูแล   แมวพันธุ์นี้ต้องการอาหารถึงวันละ 4 มื้อเลยนะมากกว่าสุนัขอีก และอาหารนั้นก็ควรมีสัดส่วนทางโภชนาการที่พอเหมาะกับมันด้วย และต้องเล่นกับมันให้เป็นประจำนะคะ เพื่อไม่ให้มันเป็นแมวที่เบื่อโลกเซื่องซึมประมาณนั้น แมวพวกพันธุ์นี้มันต้องการความรักและการเอาใจใส่เรื่องการเล่นกับมันมาก ๆ เลย
     แมวพันธุ์นี้ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่หายากมว๊ากและมีราคาสูงลิบ แต่ถ้าหาในไทยคงแทบไม่มีนะคะ  เพราะขนาดประเทศอเมริกาซึ่่งเป็นประเทศที่นำสายพันธุ์นี้มาเลี้ยงยังหายากเลย  แล้วถ้าพูดถึงความเป็นที่รู้จักของแมวสายพันธุ์นี้คงน้อยมาก ๆ ถ้าไปพูดให้คนอื่นฟังอาจท้วงว่าหมายถึงสุนัขรึเปล่า 555 (ถ้าไม่เคยดูรายการ 101 CAT ก็คงไม่รู้จักหรอกค่ะ อิอิ) อยากให้รู้จักกันไว้นะคะ  จะได้เป็นความรู้ประดับสมอง

Read More

แมวทราย (Sand cat)




 
                                 
      
        สำหรับคำจำกัดความย่อ ๆ ของแมวทราย (Sand cat) นั้นกล่าวได้ว่าเป็นแมวป่าขนาดเล็กกระจายอยู่ตามทะเลทรายแอฟริกาและเอเชีย มีขนาดลำตัวยาว 39-57 เซนติเมตร หนัก 1.4-3.4 กิโลกรัม มีขนยาวที่เพิ่มขึ้นระหว่างนิ้วเท้า สามารถอาศัยอยู่ได้ในอุณภูมิตั้งแต่ -5 ถึง 52 องศาเซลเซียส สามารถอดน้ำได้เป็นเดือนโดยอาศัยน้ำที่อยู่ในอาหารเท่านั้น  ได้ยินกันขนาดนี้แล้วก็คงอยากรู้ข้อมูลอย่างละเอียดแล้วใช่ไหมคะ
  ถิ่นที่อยู่อาศัย  กระจายอยู่ทั่วไปตามทะเลทรายแอฟริกาและเอเชีย โดยพบมากในแถบทะเลทรายซาฮารา  ทะเลทรายอราเบียน  ทะเลทรายแถบอิหร่านและปากีสถาน
สายพันธุ์   เป็นแมวที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ  ชื่อเต็มของมันก็คือ Feris magarita เป็นสัตว์ตระกูลแมวชนิดเดียวที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย
ลักษณะ     แมวทรายเป็นที่มีขนาดเล็กที่สุดชนิดหนึ่งของโลก ตัวผู้ตัวเต็มวัยมีน้ำหนักเพียง 2.1-3.4 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียหนัก 1.4-3.1 กิโลกรัม   ลำตัวสีน้ำตาลซีดจนถึงเทาอ่อน ขนแน่น หนานุ่ม บริเวณหลังเข้มขึ้นเล็กน้อย หน้าท้องซีดจาง มีลายริ้วจาง ๆ ตามลำตัวและขา มีเส้นสีน้ำตาลแดงพาดที่แก้มตั้งแต่หางตา ครึ่งล่างของหน้าและหน้าอกสีขาวหรือเหลืองอ่อน ใบหูใหญ่เป็นรูปสามเหลี่ยมปลายเรียว สีน้ำตาลอมแดง ปลายหูสีดำ ใบหูอยู่ห่างกันและค่อนมาทางข้างหัว ปลายหางมีปล้องบาง ๆ หลายปล้อง ปลายหางสีดำ ใบหน้ากว้าง ดวงตาใหญ่ อุ้งตีนมีขนยาวหนาแน่นปกคลุม
      แมวทรายเป็นแมวที่เกิดมาเพื่ออยู่ในทะเลทรายอย่างแท้จริง ขนที่คลุมอุ้งตีนช่วยป้องกันความร้อนจากพื้นดินและช่วยเก็บเสียงขณะเดินบนพื้นผิวที่หยาบร่วน เมื่อเดินบนทรายจะแทบไม่ปรากฏรอยตีนเลย ประสาทหูไวมาก เหมาะสำหรับการหาเหยื่อในพื้นที่ที่เหยื่อหายาก คาดว่าแมวทรายได้ยินเสียงอัลตราโซนิกจากเหยื่อที่อยู่ใต้ดินได้เช่นเดียวกับเซอร์วัล
   อุปนิสัย    แมวทรายปีนป่ายและกระโดดไม่เก่ง แต่เป็นยอดนักขุด ทักษะการขุดมีความสำคัญอย่างยิ่งในการดำรงชีพในสถานที่ของแมวชนิดนี้  เพราะต้องใช้ในการขุดโพรงเพื่อพักผ่อนและหาเหยื่อ อุ้งเล็บไม่คมมากนัก ซึ่งอาจเป็นเพราะการอาศัยในทะเลทรายจึงไม่มีโอกาสได้ฝนเล็บบ่อยนัก เวลาเดินบนพื้นที่โล่ง จะเดินย่องต่ำ ๆ หูที่ใหญ่ช่วยในการค้นหาเสียงจากความเคลื่อนไหวอันแผ่วเบาได้เป็นอย่างดี เหยื่อของแมวทรายได้แก่ เจอร์บิล เจอร์บัว โวล กระต่ายป่า นก สัตว์เลื้อยคลาน และแมลง ศัตรูตามธรรมชาติได้แก่งูพิษ หมาจิ้งจอก และนกเค้าแมวขนาดใหญ่
      แมวทรายหากินเวลากลางคืน ส่วนเวลากลางวันมักใช้เวลาส่วนใหญ่ในโพรงตื้น ๆ ที่ขุดไว้ตามเนินทราย ในดงไม้แคระ หรืออาจนอนอยู่ไม่ไกลจากปากโพรง โดยนอนหงายหลังซึ่งเป็นท่านอนที่ระบายความร้อนได้ดี แมวทรายแต่ละตัวอาจยืมรังใช้กันได้ เมื่อตกค่ำ แมวทรายจะซุ่มสังเกตการณ์อยู่ปากโพรงประมาณ 15 นาที ก่อนที่จะออกจากโพรงไป แต่ละคืนแมวทรายจะเดินทางเฉลี่ย 5.4 กิโลเมตร เมื่อกลับมาที่รังในตอนรุ่งสางก็จะมาซุ่มสังเกตการณ์ที่ปากโพรงอีกครั้งก่อนจะเข้ารังนอน
   ทางชีววิทยา   ในทะเลทรายซาฮารา ลูกแมวทรายมักเกิดในช่วงเดือนมกราคม-เมษายน ในเติร์กเมนิสถานลูกแมวเกิดในเดือนเมษายน ในปากีสถานมักเกิดในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ส่วนในแหล่งเพาะเลี้ยงไม่มีฤดูผสมพันธุ์ที่แน่นอน
   ตั้งท้องนานประมาณ 60-69 วัน ออกลูกคราวละ 1-8 ตัว ปกติ 2-3 ตัว ออกลูกในโพรงหรือหลืบหิน ลูกแมวแรกเกิดหนัก 50-60 กรัม ลืมตาได้เมื่ออายุได้สองสัปดาห์ ลูกแมวทรายพัฒนาเร็วมาก หลังจากเกิดก็จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นวันละประมาณ 12 กรัม เริ่มออกจากรังได้เมื่ออายุได้ 3-4 สัปดาห์ กินอาหารแข็งได้เมื่ออายุได้ 5 สัปดาห์ เมื่ออายุได้ 3-4 เดือนก็แยกจากแม่ไปหากินเองได้แล้ว และจะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ได้เมื่ออายุได้ 9-14 เดือน ในแหล่งเพาะเลี้ยงมีอายุได้ถึง 13 ปี
   แมวทรายจัดว่าเป็นสัตว์ที่หายาก และไม่ค่อยพบการนำมาเลี้ยง  แต่ความหายากของมันก็ไม่ได้หมายความว่าแมวพันธุ์นี้จะสูญหายไปได้ง่าย เพราะการที่มันอยู่ในที่ทุรกันดารแช่นนี้จึงทำให้มันปลอดภัยจากอันตรายได้มากพอสมควร  และคนท้องถิ่นยังมีความเชื่ออีกด้วยว่าแมวชนิดนี้เป็นสัตว์เลี้ยงของศาสดามูฮัมเม็ดและลูกสาว จึงไม่ถูกล่าจากคนท้องถิ่น  ถ้าอยากเห็นตัวจริงเชื่อว่าตามสวนสัตว์น่าจะมีให้เห็นอยู่

Read More

แมวพันธุ์สีสวาด (Silver blue)

                              




   แมวสีสวาดหรือบางคนอาจเรียกว่าแมวโคราชเป็นที่นิยมเลี้ยงในไทยกันเป็นอย่างมากเพราะถือว่าเป็นแมวที่เป็นมงคลให้โชคลาภ  อยากจะรู้จักกับแมวพันธุ์นี้ให้มากขึ้นไหมคะ งั้นมาศึกษากัน
   ถิ่นกำเนิด  จากประเทศไทย พบที่อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา(โคราช) ชื่อแมวโคราช เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย โดยใช้แหล่งกำเนิดของแมวเป็นชื่อเรียกพันธุ์แมว มีเรื่องเล่ามากมายหรือเป็นตำนานเล่าขานเกี่ยวกับแมวโคราช รวมถึงตำนานพื้นบ้านที่กล่าวถึงการที่แมวโคราชมีหางหงิกงอมากเท่าไหร่จะมีโชคลาภมากเท่านั้น แต่คนไทยบางกลุ่มจะเรียกแมวโคราชว่า แมวสีสวาด
   ลักษณะที่เป็นข้อเด่น
- ลักษณะสีขน  ขนสั้น สีสวาด (silver blue) ทั่วทั้งตัวและเป็นสีสวาดตั้งแต่เกิดจนตาย
- ลักษณะของส่วนหัว : หัวเมื่อดูจากด้านหน้าจะเป็นรูปหัวใจ หน้าผากใหญ่และแบน หูตั้ง ในแมวตัวผู้หน้าผากมีรอยหยักทำให้เป็นรูปหัวใจเด่นชัดมากขึ้น หูใหญ่ตั้ง ปลายหูมน โคนหูใหญ่ ผิวหนังที่บริเวณจมูกและริมฝีปากสีเงิน หรือม่วงอ่อน
- ลักษณะของนัยน์ตา : นัยน์ตาสีเขียวสดใสเป็นประกาย หรือสีเหลืองอำพัน ขณะยังเป็นลูกแมวตาจะเป็นสีฟ้า เมื่อโตขึ้นจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองสด และเมื่อเติบโตเต็มที่ตาจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวใบไม้ หรือสีเหลืองอำพัน
- ลักษณะของหาง  หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อย ๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว
            คนสมัยโบราณมีความเชื่อว่า แมวสีสวาดเป็นแมวนำโชคลาภของคนโคราช และคนเลี้ยงทั่ว ๆ ไป จะนำมาซึ่งความสุขสวัสดิมงคลแก่ผู้เลี้ยง แมวสีสวาดเคยประกวดชนะเลิศในระดับโลกมาแล้วในปี พ.ศ. 2503 ที่สหรัฐอเมริกา เป็นแมวตัวเมียชื่อว่าสุนัน และเป็นที่นิยมของชาวต่างประเทศมาก จึงนับว่าแมวไทยได้ทำชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยเป็นอันมาก
ลักษณะที่เป็นข้อด้อย
ขนยาวเกินไป มีสีอื่นปน นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่น ตาเอียง จมูกหัก หูไม่ตั้ง หางสั้นมากเกินไป (เมื่อยืดขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว) หางขอด หางหงิกงอ หางสะดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี
อุปนิสัย   แมวโคราชมีนิสัยที่แตกต่างจากแมวสายพันธุ์อื่นอย่างเห็นได้ชัด แมวโคราชจะมีนิสัยค่อนข้างฉลาด จำแม่น ขี้ประจบ ถ้าหากเรานำแมวโคราชไปปล่อยในต่างสถานที่ แมวฯ สามารถที่จะกลับมาที่บ้านของตัวได้ มีนิสัยคล้ายสิงห์โต จะสร้างอาณาจักรของตัวเองโดยการฉี่รอบสถานที่อยู่อาศัย แมวต่างถิ่นที่เป็นตัวผู้จะไม่ให้กล้ำกลายเข้ามา ยกเว้นตัวเมีย ตัวเมียถ้าหากอยู่รวมกันเป็นฝูงจะแบ่งชั้นวรรณะกัน ถ้าหากเราให้อาหารรวมกัน ตัวที่เป็นจ่าฝูงจะกินอาหารก่อน และไล่รองลงมา แต่การเลี้ยงลูกกลับมีนิสัยเหมือนสิงห์โต ตัวเมืองจะช่วยกันเลี้ยงลูก แมวถึงแม้ไม่ใช่ลูกของตัวเอง แม้แต่อาหารก็จะให้ลูกแมวกันก่อนแล้วค่อยกินทีหลัง แม่แมวจะฝึกลูกของตัวเองในการดำรงชีพ และป้องกันตัวโดยการสัตว์เล็กมาให้หยอกเล่นเป็นการฝึกการหาอาหารและป้องกันตัวเอง แมวโคราชมีนิสัยที่จะเจ้าของแม่นมาก ถ้าคนแปลกหน้าเข้ามาจะไม่ไว้วางใจหรืออาจจะขู่เลย แต่ถ้าเป็นเจ้าของจะวิ่งมาเคล้าแข้งเคล้าขา ประจบสอพลอ
    การดูแล  แมวสีสวาด มีอายุขัยประมาณ 10-15 ปี ใกล้เคียงกับสุนัข และใช้เวลาการตั้งท้องประมาณ 63 วัน คลอดลูกครั้งละ 1-7 ตัว แต่ส่วนมากจะคลอดลูกประมาณ 4 ตัว สำหรับวิธีการเลี้ยงดูหากเลี้ยงที่บ้านปกติควรดูแลเรื่องการให้ยาถ่ายพยาธิและการฉีดวัคซีนมากเป็นพิเศษ  โดยยาถ่ายพยาธิควรให้เป็นระยะ ๆ ประมาณ 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง และฉีดวัคซีน 3 ชนิด ปีละ 1 ครั้ง ประกอบด้วย วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า วัคซีนป้องกันหัดแมว และวัคซีนป้องกันลิวคีเมียร์ ซึ่งลิวคีเมียร์เป็นโรคแมว ลักษณะเป็นไวรัสชนิดหนึ่ง หากเป็นแล้วมักไม่มียารักษา จึงต้องฉีดยาป้องกันไว้ก่อน แค่นี้แมวสีสวาดก็จะมีอายุยืนยาวอยู่กับเราได้นาน ๆ
         สำหรับราคาของเจ้าแมวโคราชหรือแมวสีสวาดก็เริ่มต้นที่ 2,000 บาทขึ้นไปและมีราคาสูงถึงหลักแสนเลยก็ว่าได้  เพราะคนไทยถือว่าแมวพันธุ์นี้เป็นแมวมงคล ยิ่งมีลักษณะตรงตามตำราละก็ยิ่งทำให้ราคาสูงเข้าไปใหญ่  สำหรับใครสนใจแมวพันธุ์นี้ก็หามาเลี้ยงสักตัวนะคะ  ถือว่ช่วยกันอนุรักษ์แมวไทยให้คงงอยู่ไปโดยไม่สูญหายกันด้วยค่ะ

Read More

แมวพันธุ์สิงหะปุระ (Singapura)

                                         



 ฟังชื่อแล้วแมวพันธุ์นี้ดูไปคล้อง ๆ กับประเทศสิงคโปร์ใช่ไหมละคะ เป็นแมวสายพันธุ์ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักกันมากนักในไทยเท่าไหร่ แล้วคุณทราบไหมว่าแมวสิงหปุระนั้นมีขนาดเล็กที่สุดในโลกสำหรับแมวพันธุ์แท้เลยนะ ว่าแต่แมวสิงหะปุระนี่มันเกี่ยวกับประเทศสิงคโปร์รึเปล่า  และความน่ารักของมันนี่ขนาดไหนกัน  ขอบอกว่าแมวพันธุ์นี้น่ารักสุด ๆ ไปรู้จักมันกันเลยดีกว่าค่ะ
ถิ่นกำเนิด  จากประเทศสิงคโปร์  ประเทศใกล้บ้านเรากันนี่แหละค่ะ  เป็นแมวสายพันธุ์แท้ที่ได้ถูกนะมาพัฒนาในประเทศอเมริกาจนเป็นที่ยอมรับ
ลักษณะ     เป็นแมวที่มีขนาดเล็กที่สุดในบรรดาแมวสายพันธุ์แท้ทั้งหลาย แถมมันยังมีดวงตาและใบหูที่ใหญ่โตซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดูน่ารักมาก ๆ  ลักษณะมันคล้ายกับแมวพันธุ์อะบิซิเนียนเลยนะคะ แต่ถ้าดูให้ดีแล้วมีเพียงหูที่ใหญ่เหมือนกันเท่านั้น นอกนั้นจะแตกต่างหมด  สีขนของมันคือสี sepia agouti เปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือสีน้ำตาลเข้มที่กระจายอยู่บนสีพื้นสีงาช้างตลอดด้านบนของลำตัว  หางมีความยางปกติ  แต่เท้าของมันมีขนาดเล็กกว่าแมวทั่วไป  สีตาของแมวพันธุ์นี้มีทั้งสีน้ำตาลแดง สีเขียวหรือสีเหลือง



 


 





   อุปนิสัย   เป็นแมวที่ชอบก่อกวนผู้คน เรียกว่ามันขี้เล่นสุด ๆ เลยคะ แถมขี้อ้อนชอบให้คนสนใจ บางครั้งก็ชอบมานั่งตักเพื่อเรียกร้องความสนใจ  แถมมันยังขี้สงสัย  เรียกว่าเป็นแมวที่ฉลาดและมีสัญชาตญาณของการเป็นผู้ล่าอย่างเต็มตัว  เรียกว่าเหมาะกับคนที่ชอบเล่นซุกซนกับเจ้าแมว และต้องการมีเพื่อนรักเป็นสัตว์เลี้ยงมาก ๆ เลยคะ
การดูแล  แมวขนสั้นเรียกว่าแปรงขนก็ง่ายอยู่แล้วใช่ไหมคะ การเลี้ยงดูส่วนใหญ่ก็ง่ายเช่นกันค่ะ ส่วนเรื่องที่ต้องแนะนำเป็นพิเศษก็คือ มันเป็นแมวขี้เล่น  มึความเป็นนักล่า  ควรหาของเล่นไว้ให้มันเยอะ ๆ นะคะ  และระวังเรื่องการขีดข่วนฟอร์นิเจอร์ของคุณด้วยมันออกจะซุกซนอะเนอะ

Read More

แมวพันธุ์วิเชียรมาศ (Siamese)

       

    จากครั้งที่แล้วพูดถึงแมวบาหลีกันไปแล้ว  คราวนี้มารู้จักต้นกำเนิดของมันกันดีกว่าก็คือแมววิเชียรมาศอันสวยงามของไทยเรานี่เอง  เป็นแมวไทยที่ดังมากในต่างประเทศ  และถือเป็นต้นตำรับของการผสมพันธุ์แมวพันธุ์ใหม่ ๆ ด้วย เท่าที่รู้ ๆ ก็คือแมวบาหลีอย่างที่กล่าวไปและแมวหิมาลายันด้วย
ถิ่นกำเนิด  ประเทศไทย  เป็นแมวโบราณที่มักเลี้ยงไว้ในวังตั้งแต่สมัยอยุธยา  เพราะเชื่อว่าแมวพันธุ์นี้เป็นแมวมงคล  มักกล่าวว่าแมวมงคลคนธรรมดาสามัญชนไม่สามารถเลี้ยงได้ เมื่อสมัยเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่2 แมวไทย 17ชนิดในพระราชวังของกรุงศรีอยุธา ได้ถูกพวกพม่า และเชลย ได้นำไปพม่า เพราะพม่าคิดว่า แมวไทยคือทรัพย์สินที่มีค่าชนิดนึงเนื่องจากแมวไทยในอยุธยาสามารถซื้อขายได้ถึง 1แสนตำลึงทอง หากใครมีแมวชนิดนี้จึงนำมาขายแก่วัง ซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำให้แมวไทยสูญพันธุ์ หลังจากนั้น แมววิเชียรมาศก็สาบสูญหายไปจากประเทศไทย ต่อมา สมเด็จพุฒาจารย์ พุทธสโร ได้ไปเที่ยวกรุงศรีอยุธยาร้าง แล้วไปเจอสมุดข่อยที่ไม่ถูกเผา จึงนำสมุดข่อยกลับมา แล้วให้คนไปไล่ต้อนจับแมววิเชียรมาศ จนได้แมววิเชียรมาศกลับมาสู่ประเทศไทยอีกครั้ง
   ลักษณะ   ลักษณะที่เป็นข้อเด่น

             ลักษณะสีขน : ขนสั้นแน่นสีขาว หรือสีน้ำตาลอ่อน มีแต้มสีครั่ง หรือสีน้ำตาลไหม้ที่บริเวณใบหน้า หูทั้งสองข้าง เท้าทั้งสี่ หางและที่อวัยวะเพศ (ทั้งแมวเพศผู้และแมวเพศเมีย) รวม 9 แห่ง ขณะที่อายุยังน้อย หรือเป็นลูกแมว สีขนจะออกสีครีมอ่อนๆ หรือขาวนวล พอโตขึ้นสีจะค่อยๆ เข้มขึ้นตามลำดับจนเป็นสีน้ำตาล (สีลูกกวาด)

             ลักษณะของส่วนหัว : รูปหัวไม่กลม หรือแหลมเกินไป หน้าผากใหญ่และแบน จมูกสั้น หูใหญ่ ตั้งสูงเด่นบนส่วนหัว

       ลักษณะของนัยน์ตา : ตามีสีฟ้า
  ลักษณะของหาง : หางยาว ปลายแหลมชี้ตรง โคนหางใหญ่และค่อยๆ เล็กเรียวกลมไปจนสุดปลายหาง ขายาวเรียวได้สัดส่วนกับลำตัว
    ลักษณะที่เป็นข้อด้อย
ขนยาวเกินไป มีแต้มสีไม่ครบทั้ง 9 แห่ง แต้มสีอื่นที่ไม่ใช่สีน้ำตาลไหม้ นัยน์ตาสองข้างเป็นคนละสี หรือเป็นสีอื่นๆตาเอียงจมูกหัก หูไม่ตั้งหางสั้นเกินไปเมื่อยืนขาหลังให้ขนานกับหาง ความยาวของหางสั้นกว่าขาเกิน 3 นิ้ว) หางขอด หางหงิกงอ หางสดุด ปลายหางคด ดุเกินไป เลี้ยงลูกไม่ดี
 
   อุปนิสัยมีความสวยสง่า ลักษณะปราดเปรียด และระแวดระวังภัยให้ตัวเองดีนิสัยรักสะอาด มีความเป็นตัวของตัวเองสูงไม่ค่อยชอบถูกบังคับหรือสั่งให้ทำนั่นทำนี่แต่มีความเชื่องกับเจ้าของและรักเจ้าของอาจจะไม่สนิทกับคนแปลกหน้าง่ายๆ คือไม่เข้าหาคนแปลกหน้า และอาจข่วนคนแปลกหน้าถ้าทำให้มันตกใจ  แมวเป็นสัตว์ที่มีนิสัยผูกพันกับเจ้าของ รักบ้าน   ชอบเดินสำรวจบริเวณบ้านและหาของบันเทิงใจได้เสมอกับสิ่งรอบตัว เช่น แมลงเล็กๆ
 การดูแล  แมวไทยของเรามักเป็นแมวขนสั้นใช่ไหมคะ การแปรงขนก็ไม่ค่อยจำเป็นนักเพราะแมวพันธุ์นี้มักเลียขนทำความสะอาดเองอยู่แล้ว  และอย่าอาบน้ำให้มันนะคะเพราะว่าแมวพันธุ์นี้มักมีอาการป่วยเสมอ  เป็นแมวที่ไม่ถูกกับน้ัำจริงๆ เป็นแมวที่สุขภาพแข็งแรงเลี้ยงง่าย และมีอายุไดถึง 15-20 ปี
ราคาแมววิเชียรมาศเริ่มต้นที่3,000 บาทขึ้นไป  แมวพันธุ์นี้ถือเป็นที่ต้องการของใครหลายคนเพราะว่าตามตำราจัดว่าเป็นแมวมงคล

Read More

แมวพันธุ์บาหลี (Balinese)
                                     



           แมวพันธุ์บาหลีจะว่าไปมันก็คล้าย ๆ แมวแร็กดอลล์กับแมววิเชียรมาศเหมือนกันนะ  จะเหมือนอย่างไรนั้นก็ลองเข้าไปอ่านบล็อกอันเก่าที่ได้เขียนเอาไว้นะคะ  ส่วนจุดที่แตกต่างอย่างเห็นได้ชัดเลยก็คือเจ้าแมวบาหลีนี่มันมีจุดเด่นอยู่ที่ดวงตาคู่สวยและใบหน้าของมัน










ถิ่นกำเนิด  ได้ยินชื่อว่าบาหลีหลายคนคงนึกว่ามาจากประเทศอินโดนีเซียหรือเปล่าแต่ไม่ใช่นะคะ  มันเกิดจากการพัฒนาสายพันธุ์ในอเมริกา
สายพันธุ์   มาจากแมววิเชียรมาศ  โดยเกิดมาจากการที่มนุษย์นำมาผสมพันธุ์เพื่อต้องการความงามของแมววิเชียรมาศแต่ต้องการขนที่ยาวด้วย  เพราะปกติแมววิเชียรมาศจะขนสั้น  ส่วนทำไมถึงต้องชื่อว่าพันธุ์บาหลีนั้นนะเหรอ  เกิดจากการที่คนผสมพันธุ์เจ้าแมวพันธุ์นี้มองเห็นความสง่าและสวยงามเหมือนกับนักเต้นบาหลี  และถ้าหากจะให้ตั้งชื่อว่า long-haired Siamese(แมววิเชียรมาศพันธุ์ขนยาว) ก็เป็นชื่อที่ดูยาวไปและดูไม่น่าจดจำนัก











ลักษณะ  เป็นแมวขนยาวนุ่ม  รูปร่างผอมยาว  หัวเป็นรูปลิ่ม ตาสีฟ้าสดใส หูตั้ง ศีรษะมีแผ่นรอยแต้มของสีเล็กๆเกิดขึ้น (ขนจะหดสั้น) มีสีทึบ  และสีของมันที่เป็นที่ยอมรับมีเพียงสีที่เหมือนกับแมววิเชียรมาศเท่านั้นว่าเป็นแมวบาหลี  เพราะแม้แมวจะมีสีอื่นด้วยแต่ไม่นับว่าเป็นแมวบาหลีนะคะ
อุปนิสัย  เหมือนกับแมววิเชียรมาศ เป็นแมวที่ค่อนข้างฉลาด ชอบที่จะเป็นจุดสนใจ  ขี้เล่น  มีเสียงร้องที่เบากว่าแมววิเชียรมาศ  แมวบาหลีไม่ค่อยขีดข่วนเวลามันหงุดหงิดสักเท่าไหร่ แต่มันอาจจะครางหรือคำรามซะมากกว่า
การดูแล  แมวบาหลีมีอายุเฉลี่ยราว 13-15 ปี  ขนของมันดูแลง่ายกว่าเจ้าเปอร์เซีย  การแปรงขนหรือแปรงฟันนั้นแมวบาหลีมักจะยอมให้เจ้าของเป็นคสทำมากกว่าคนอื่น  แมวบาหลีมักทำความสะอาดขนตัวเองอยู่เป็นประจำและเป็นแมวที่ค่อนข้างเนี๊ยบ แต่ถ้าหากมันไปเปลื้อนมาละก็คุณก็อาบน้ำให้มันด้วยน้ำยาสระขนอย่างอ่อนโยนได้

Read More

แมวพันธุ์สฟิงซ์ (Sphynx)
      แมวพันธุ์สฟิงซ์หลายคนรู้จักกันดีในฉายเจ้าแมวไร้ขน  หรือหลายคนคงไปนึกถึงรูปปั้นที่หัวเป็นคนตัวเป็นสิงโตที่อียิปต์ไม่ใช่นะคะเราพูดถึงแมวกันอยู่ = = ''  แมวพันธุ์นี้บางคนก็ว่าแมวประหลาดแต่บางคนกลับหลงรักเจ้าแมวพันธุ์นี้เป็นอย่างมาก เพราะอะไรนะเหรอมาดูกันดีกว่า
                        
     ถิ่นกำเนิด   มีคนถกเถียงกันว่าแมวพันธุ์นี้เป็นแมวที่มาจากอียิปต์หรือฮาวายกันแน่   แต่ที่แน่ ๆ เลยก็คือมันถูกนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงครั้งแรกในแคนดา
ลักษณะ     หัวมีทรงคล้ายลิ่ม หูเป็นรูปสามเหลี่ยมปลายมนกลม ตาสีอำพัน ลำตัวยาว ขายาวปานกลาง ผิวหนัง สีน้ำตาลขาว หรือดำขาว ขนเส้นเล็กสั้น พื้นท้องแถบขาวยาวตั้งแต่ปากตลอดทั้งลำตัว หาง ยาวปลายเรียว ถ้าพูดถึงขนของมันไม่มีค่ะ
  
    อุปนิสัย    เป็นแมวที่มีความรักใคร่เป็นมิตรกับเจ้าของมากที่สุดเลยก็ว่าได้  เชื่อฟังเจ้าของ  มีท่าทีที่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้าด้วย เรียกว่าเชื่องมาก ๆ แถมยังขี้อ้อน ขี้ประจบเจ้าของอีกต่างหาก  ถ้ามันต้องหารความสนใจมันจะร้องด้วยเสียงเบา ๆ ของมัน แถมเสียงยังขาดหายเป็นจังหวะประมาณว่าเหมือนคนเสียงแหบ
การดูแล   แมวไร้ขนมีข้อดีเป็นอย่างยิ่งต่อการดูแล  แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันไม่ต้องดูแลเลยนะคะ  เพราะด้วยการไม่มีขนของมันผิวหนังมันจึงผลิตน้ำมันมาเคลือบผิวเพ่ือปกป้องผิว  จึงต้องการการอาบน้ำและดูแลอย่างเหมาะสมเพ่ือให้ผิวหนังของมันมีสุขภาพดี  และถ้าคุณพามันไปออกแดดละก็ควรทาครีมกันแดดสำหรับผิวทารกด้วยนะคะ  เพื่อปกป้องผิวหนังของมันจากการโดนทำร้ายจากแสงแดด
    
      แมวสฟิงซ์ถือเป็นแมวที่เหมาะกับคนเป็นโรคภูมิแพ้ด้วย  เพราะมันเป็นสัตว์ที่ไม่ก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้ (Hypoallergenic) ในบรรดาแมว ๆ ทั้งหลายเลย  แถมนิสัยของมันก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากแมวทั่วไปด้วยแต่ยังเป็นมิตรกว่าแมวทั่ว ๆ ไปเลยด้วยซ้ำ  เพราะฉะนั้นสำหรับคนรักแมวที่เป็นโรคภูมิแพ้หรือคนที่กลัวเป็นภูมิแพ้ก็สามารถหามาเลี้ยงกันได้นะคะ

   


Read More

แมวพันธุ์แมงซ์ (Manx)
                          
  



















    แมวพันธุ์นี้เป็นแมวที่คนไทยไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่ค่ะ  แต่โดยภาพรวมของแมวแมงซ์นี้จะมีจุดเด่นอยู่ที่หางของมันซึ่งไม่เหมือนกับพันธุ์แมวอื่น ๆ อย่างแน่นอน เป็นอย่างไรนั้นมาทำความรู้จักกับมันหน่อยดีกว่า
   ถิ่นกำเนิด  ประเทศอังกฤษ
สายพันธุ์   เป็นแมวที่เกิดจากการกลายพันธุ์  โดยตอนแรกนั้นมันเป็นแมวสายพันธุ์แมวบ้านนี่แหละค่ะที่เกิดบนเกาะอังกฤษ  แล้วกลายพันธุ์จนทำให้หางมันหดสั้นลงเรื่อย ๆ จนเกิดเป็นแมวสายพันธุ์แมงซ์ขึ้น
ลักษณะ    เป็นแมวขนาดกลาง ลักษณะเด่นของแมวพันธุ์นี้คือมีขาหลังที่ยาวกว่าขาหน้า  หัวกลม และหางสั้นมากจนถึงบางตัวดูเหมือนไม่มีหาง  ดูไปดูมาแมวพันธุ์นี้มีลักษระคล้ายกระต่ายเลยค่ะ มีทั้งพันธุ์ขนสั้นและขนยาว
    อุปนิสัย   เป็นแมวที่ชอบเข้าสังคมและอยู่กับผู้คนได้ดี  แต่มันจะขี้อายกับคนแปลกหน้า  สายพันธุ์นี้เป็นแมวที่ฉลาดมากระดับ 5 ดาวและขี้เล่นคล้ายนิสัยของสุนัข  เป็นแมวที่สามารถเรียนรู้คำสั่งได้ดีกว่าแมวหลายสายพันธุ์เป็นอย่างมากเลยด้วยค่ะ
การดูแล  แมวแมงซ์ต้องการแปรงขนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งเท่านั้นเพื่อกำจัดขนที่ตายแล้วออกไป  การดูแลตัดเล็บ แปรงฟันและพาไปพบสัตวแพทย์เหมือนแมวปกติ  แต่ปัญหาเรื่องสุขภาพอาจจะเกิดกับสายพันธุ์นี้ได้เพราะมักมีปัญหากระโรคสันหลังบกพร่องจากการกลายพันธุ์ของมัน ทำให้เกิดการสั่งการกับระบบประสาทที่ผิดปกติ  และลูกแมวพันธุ์แมงซ์ที่เป็นโรคนี้จะตายภายใน 6 เดือน เพราะฉะนั้นถ้าคุณได้แมวที่มีใบรับประกันแล้วละก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนั้นไปหรอกค่ะ

Read More

แมวอเมริกัน ช๊อตแฮร์ (American shorthair cat)





      จากที่เมื่อวานได้พูดถึงแมวพันธุ์อเมริกัน เคิร์ลกันไปแล้วนะคะ  วันนี้ก็ขอต่อกันด้วยกับสายพันธุ์จากชาติอเมริกาอีกสักหนึ่งสายพันธุ์ก็แล้วกัน  ก็คือเจ้าอเมริกัน ช๊อตแฮร์กันดีกว่าเพราะสายพันธุ์นี้ถือเป็นสายพันธุ์ที่คนไทยนิยมเลี้ยงกันมาก ๆ พอ ๆ กับเจ้าเปอร์เซียกันเลยนะคะ แล้วคุณจำหน้ามันได้ไหมคะว่าเจ้าแมวพันธุ์นี้ได้โฆษณาอาหารแมววิสกัสกันด้วยนะ

       ถิ่นกำเนิด   จากประเทศสหรัฐอเมริกา  เมื่อครั้งมีการโยกย้ายถิ่นฐานของคนยุโรปไปแสวงหาถิ่นที่อยู่ใหม่ แมวถูกนำลงเรือไปเพราะต้องการใช้ประโยชน์จากมันในการล่าหนูมิให้ทำลายข้าวของซึ่งที่นำไปด้วยนั้นมีหลายตัวและได้ผสมพันธุ์กันจนได้ลูกที่มีลักษณะเฉพาะออกมาให้เห็นอย่างปัจจุบัน
ลักษณะ     เป็นแมวที่มีขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ โครงสร้างลำตัวใหญ่โต มีกล้ามเนื้อแข็งแรงเห็นชัดเจน อกใหญ่ ขาใหญ่ ยาวขนาดปานกลาง ใบหูขนาดกลางและขอบเป็นทรงกลมมน หัวรูปไข่แต่มีคางที่ค่อนข้างใหญ่ชัดเจน ดวงตาแมวพันธุ์นี้กลมโต ขอบตาด้านนอกด้านบนจะโค้งลงมา สีของตาเป็นสีเขียว  มีลักษณะสีขนและรูปร่างมากกว่า 80 แบบ มีตั้งแต่ สีน้ำตาล striking tabby ไปจนถึง แมวสีขาวตาสีฟ้าสดใส หรือ shaded silvers สี smoke และสี camero รวมทั้งสี calico van และสีอื่นในระหว่างนี้ แต่สีที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือสีsilver tabby โดยจะมีลายสีดำเข้ม พลาดอยู่บนพื้นสีเงิน (ลายเสือ)

      อุปนิสัย     อเมิรกัน ช๊อตแฮร์เป็นที่รักใคร่และเป็นมิตรกับเจ้าของมาก นิสัยของมันยังปรับเปลี่ยนให้เข้ากับเจ้าของที่เลี้ยงดูได้  แม้เจ้าพันธุ์อเมริกัน ช็อตแฮร์จะไม่ต้องการเอาใจใส่มากมายแต่มันก็ชอบให้คุณเล่นด้วยนะคะ เพราะมันเป็นแมวที่รักความสนุกสนานกับการเป็นผู้ล่าบางครั้งมันก็ชอบการเล่นไล่จับสัตว์ของมันไปเรื่อย เป็นแมวที่ฉลาดและเต็มใจที่จะฝึก
การดูแล   เป็นแมวที่มีสุขภาพดี แต่สายพันธุ์นี้มักจะมีปัญหาโรคหัวใจเพราะฉะนั้นควรเลือกสายพันธุ์ที่ไม่เกิดโรคนี้นะคะเพราะโรคนี้เป็นโรคทางพันธุกรรม  ถ้าคุณเกิดไปได้เจ้าพันธุ์นี้ที่เป็นโรคหัวใจ  ลูก ๆ ของมันต่อไปก็จะเป็นโรคหัวใจเช่นกันค่ะ  การดูแลพื้นฐานก็คือแปรงขนให้มัน ตัดเล็บ และทำความสะอาดใบหูของมันเพื่อให้มันมีสุขภาพดีด้วย

Read More

สก็อตทิช โฟลด์ (Scottish Fold)
 พันธุ์สก็อตทิช โฟลด์ (Scottish Fold) หรือเจ้าแมวหูตกซึงเป็นเอกลักษณ์เด่นของเจ้าแมวพันธุ์นี้
     ถิ่นกำเนิด  จากประเทศสก็อตแลนด์ลักษณะ     เป็นแมวขนาดกลาง ศีรษะกลม หูพับหรือตั้ง บางตัวหูจะพับเพียงครึ่งเดียว พับ 2 ส่วนหรือพับ  3 ส่วน จะมีทั้งขนสั้นและขนยาว  หัวเพศผู้จะใหญ่กว่าหัวของตัวเมีย
                      
                             

   อุปนิสัย    มีความกระตือรือร้น ชอบคลอเคลีย, มีความสุภาพ เรียบร้อย ขี้เล่น
ขี้อ้อนและขี้ประจบเจ้าของ เป็นแมวที่ไม่ค่อยส่งเสียง จัดเป็นแมวต่างประเทศที่เลี้ยงง่ายสายพันธุ์นึงเลยก็ว่าได้

  การดูแล   การแปรงขนของเจ้าสก็อตทิช โฟลด์สำหรับพันธุ์ขนสั้นนั้นเพียงครั้งละ 1-2 สัปดาห์เท่านั้นถือว่าน้อยมาก  แต่ถ้าพันธุ์ขนยาวก็ต้องได้รับการดูแลมากเป็นพิเศษ แนะนำให้ใช้หวีที่เป็นเหล็กจะทำให้แปรงขนได้ดีรวมถึงแมวขนยาวพันธุ์อื่น ๆ ด้วย  และควรทำความสะอาดหูให้มันเป็นประจำพอ ๆ กับการแปรงขนเลยนะคะ แมวพันธุ์แท้ถือว่าเป็นแมวที่แข็งแรงมาก แต่ถ้าคุณเกิดไปได้แมวที่มียีนเป็นโรคทางพันธุกรรมเกี่ยวกับกระดูกที่มีการพับของมัน ก็อาจได้ลูกแมวที่พิการได้นะคะ  และการดูแลขั้นสุดท้ายคือมั่นนำไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำด้วยนะคะ

Read More

                            แมวพันธุ์เอกซ์โซติก ขนสั้น (Exotic Shorthairs)

                               



   คงมีคนจำนวนน้อยที่จะรู้จักแมวพันธุ์เอกซ์โซติก ขนสั้นนี้กันเพราะเป็นแมวที่มีราคาสูงมาก  แต่ด้วยความโด่งดังของมันจาก social network อีกนั่นแหละจึงทำให้ได้รู้จักกับความน่ารักของเจ้าแมวพันธุ์นี้ขึ้นมาได้

   สายพันธุ์ เกิดจากการผสมของแมวพันธุ์ Persians และ  American Shorthairs
ลักษณะ เป็นแมวที่มึขนสั้นและนุ่มมว๊าก หัวกลม กะโหลกกว้าง มีรูปหน้ากลมแบน จมูกสั้น ดวงตาใหญ่เป็นพิเศษ  หูเล็ก และรูปร่างอ้วน มีลักษณะส่วนใหญ่คล้ายกับแมวพันธุ์เปอร์เซีย เพียงขนของ แมวพันธุ์ Exotic Shorthair จะสั้นกว่าเหมือนจุดเด่นของพันธุ์ American Shorthairs เท่านั้นเอง ส่วนเรื่องสีนั้นแมวพันธุ์ Exotic Shorthair จะมีเฉดสีขาว, น้ำตาล, ส้ม เป็นส่วนใหญ่

    อุปนิสัย  เป็นแมวที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของ ไม่ขี้หงุดหงิด มีความอดทน บางทีคุณแทบไม่ได้ยินเสียงร้องของแมวพันธุ์นี้ เพราะมันค่อนข้างจะสงบ เงียบ และถ้าหากมันต้องการความสนใจ มันก็จะแค่นั่งอยู่หน้าคุณ หรือกระโดดมานั่งบนตัก ไม่งั้นก็เอาจมูกชื้น ๆ ของมันมาแตะที่หน้าคุณน่ารักอ่ะ

    การดูแล  ด้วยความที่เจ้า Exotic Shorthair นั้นมีขนที่สั้นจึงทำให้การดูแลทำความสะอาดได้ง่าย  แต่จากข้อมูลของ wikipedia เค้าว่าเจ้า Exotic Shorthair เป็นแมวที่เลี้ยงยาก เนื่องจากหน้าที่แบนทำให้เกิดคราบสกปรกที่เกิดจากน้ำตาบนใบหน้าได้ง่าย แมว Exotic Shorthair ยังเป็นโรคไซนัสได้ง่าย ยิ่งไปกว่านั้น ประมาณ 40-50% ของแมวพันธ์นี้มีโอกาสเกิดโรคไต และไม่มีทางรักษา เพราะฉะนั้นผู้เลี้ยงต้องมั่นดูแลและมักพาไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำ

Read More

Copyright © 2014 แมว | Designed With By Blogger Templates
Scroll To Top